แก้เมื่อยเรื้อรังด้วย Shock Wave
คงไม่มีใครอยากที่ต้องการมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง และสิ่งที่คอยบั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างมากที่สุดของคนในยุคนี้ ก็คือ “อาการปวดเรื้อรัง” โดยเฉพาะการปวดของโรคออฟฟิศซินโดรมตามบ่าคอหรือไหล่ ที่เกิดขึ้นมาจากการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ ติดต่อกันหลายๆชั่วโมงโดยไม่ได้มีการพักเป็นระยะๆ หรือไม่มีการปรับเปลี่ยนอริยาบทตามที่ควรจะเป็น ซึ่งพบว่าคนในยุคปัจจุบันมักจะป่วยเป็นโรคนี้กันมากขึ้นในทุกๆปี
ในส่วนของการบำบัดโรคออฟฟิศซินโดรมก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยส่วนใหญ่คนก็มักจะเป็นการนวดเพื่อบำบัด ไม่ว่าจะเป็นการนวดแผนไทย หรือนวดน้ำมัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจจะยังไม่น่าพึงพอใจมากนัก และเมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่นานก็สามารถกลับมาเป็นอาการเดิมได้อีก และไม่สามารถกำจัดอาการปวดได้อย่างหายขาด
ดังนั้น จึงได้มีการพัฒนาวิธีการในทางการแพทย์ ที่ช่วยในการบรรเทาอาการต่างๆเหล่านี้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงวิธีดังกล่าวนั้นกันค่ะ
ภาพจาก : https://www.eswt.info/en/eswt-shock-wave-treatment/how-is-shock-wave-treatment-performed.html
วิธีการที่เราพูดถึงในที่นี้เป็นการใช้เวชศาสตร์ฟื้นฟูจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อทำให้ร่างกายได้รับการบำบัดด้วยวิธีการที่เหมาะสม และเป็นการแก้ไขลงไปในจุดที่บาดเจ็บ เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า “Shockwave หรือคลื่นกระแทก” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการรักษาทางกายภาพบำบัดชนิดหนึ่ง และเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
Shockwave มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์ที่จำเพาะที่มีการใช้คลื่นพลังงานที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาอาการปวด และช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้กลุ่มโรคที่เหมาะสมที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ในการรักษา คือ กลุ่มความผิดปกติของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น เช่น โรครองช้ำ ปวดเอ็นร้อยหวาย หรืออาการปวดเรื้อรังโรค Office Syndrome นั่นเอง
ทั้งนี้ การรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวถือว่าค่อนข้างได้ผลดี ผู้ป่วยมีอาการปวดที่ลดลงภายหลังจากการรักษาตั้งแต่ครั้งแรก และสามารถหายปวดได้เองในภายหลังหากมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง
เหตุใด Shockwave จึงสามารถที่จะทำให้เราหายจากโรคที่แสนทรมานนี้ ? ลองมาหาคำตอบกันได้เลยค่ะ
Shock Wave therapy เป็นการใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในการนวดผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ โดยคลื่นกระแทกหรือ Shock Wave จะเข้าไปด้วยอนุภาคเสียงที่มีความเร็วสูง ในแต่ละจุดจะมีการยิงขึ้นไป 1,000-2,000 นัด หรือประมาณ 5 นาทีต่อ 1 จุด เพื่อทำให้เกิดผลในการลดความเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว
การรักษาด้วยคลื่นกระแทกจะทำการรักษาเพียงแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเว้นระยะห่างให้ร่างกายได้มีโอกาสในการซ่อมแซมตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะเป็นการลดความเจ็บปวด กระตุ้นการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อ และช่วยให้เกิดการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด
เครื่องมือการรักษานี้ถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และสามารถที่จะเห็นผลการรักษาได้เป็นอย่างดีและยั่งยืน เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องมือทางกายภาพบำบัดอื่นๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน แม้จะต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มีราคาแพง แต่ผู้คนก็ยอมที่จะจ่ายเพื่อหวังให้การรักษาเห็นผลได้ดี
ทั้งนี้ สําหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ด้วย Shock Wave จะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งไม่ได้เป็นการรักษาเพียงแค่ครั้งเดียวจบ แต่จําเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมๆกลับมามีอาการเช่นเดิมอีก
ทั้งนี้ มีข้อห้ามใช้สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยบางโรค เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคเลือดจับตัวเป็นก้อน โรคมะเร็ง โรคเนื้องอก สตรีมีครรภ์ หรือเด็กที่กำลังเจริญเติบโต เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มักมีความเสี่ยง อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้หากได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้
แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นสำหรับคนทั่วๆไปอาจจะเป็นในลักษณะของอาการบวม เกิดจ้ำเลือด ผื่นแดง หรือห้อเลือด แต่อาการต่างๆเหล่านี้จะหายไปภายใน 5 ถึง 10 วัน ขึ้นกับแต่ละบุคคล จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวลใจแต่อย่างใด
ภาพจาก : https://careplusphysio.ca/physiotherapy-treatments/shockwave-therapy/
การรักษาอาการในกลุ่มออฟฟิตซินโดรมโดยส่วนใหญ่จะเป็นการทํากายภาพบําบัด ซึ่งในผู้ป่วยหลายๆรายอาจต้องใช้การรักษามากกว่า 1 วิธี เพื่อให้ทุกๆวิธีในการรักษาเข้าไปส่งเสริมกัน และทำให้ผู้ป่วยหายดีได้เร็วมากที่สุด ซึ่งหนึ่งในการรักษาที่ได้ผล ก็คือ การรักษาด้วยคลื่นกระแทก ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์การทลายความปวดเมื่อยของผู้คนได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าหากคุณได้รับการรักษาด้วยวิธีการนี้แล้ว จะทำให้ปัญหาที่มีหายไป และทำให้การใช้ชีวิตกลับมามีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมที่จะแก้ไขที่ต้นเหตุด้วยเช่นกัน เพราะหากยังคงใช้ชิวิตแบบผิดๆ นั่งทำงานด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม การรักษาด้วยวิธีการใดๆก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่คุณมีอยู่ได้ อีกทั้งยังต้องเสียเงินด้วยค่าใช้จ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อคลายความปวดเมื่อยที่ไม่มีวันหายไป ดังนั้น การพยายามที่จะใช้ชีวิตให้ถูกต้อง หรือมีการปรับอิริยาบถและปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจําวันอย่างเหมาะสม จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขที่ปลายเหตุแบบนี้อีก
คงไม่มีใครอยากที่ต้องการมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง และสิ่งที่คอยบั่นทอนคุณภาพชีวิตอย่างมากที่สุดของคนในยุคนี้ ก็คือ “อาการปวดเรื้อรัง” โดยเฉพาะการปวดของโรคออฟฟิศซินโดรมตามบ่าคอหรือไหล่ ที่เกิดขึ้นมาจากการนั่งทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ ติดต่อกันหลายๆชั่วโมงโดยไม่ได้มีการพักเป็นระยะๆ หรือไม่มีการปรับเปลี่ยนอริยาบทตามที่ควรจะเป็น ซึ่งพบว่าคนในยุคปัจจุบันมักจะป่วยเป็นโรคนี้กันมากขึ้นในทุกๆปี
ในส่วนของการบำบัดโรคออฟฟิศซินโดรมก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยส่วนใหญ่คนก็มักจะเป็นการนวดเพื่อบำบัด ไม่ว่าจะเป็นการนวดแผนไทย หรือนวดน้ำมัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้อาจจะยังไม่น่าพึงพอใจมากนัก และเมื่อเวลาผ่านไปอีกไม่นานก็สามารถกลับมาเป็นอาการเดิมได้อีก และไม่สามารถกำจัดอาการปวดได้อย่างหายขาด
ดังนั้น จึงได้มีการพัฒนาวิธีการในทางการแพทย์ ที่ช่วยในการบรรเทาอาการต่างๆเหล่านี้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาบอกเล่าถึงวิธีดังกล่าวนั้นกันค่ะ

วิธีการที่เราพูดถึงในที่นี้เป็นการใช้เวชศาสตร์ฟื้นฟูจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อทำให้ร่างกายได้รับการบำบัดด้วยวิธีการที่เหมาะสม และเป็นการแก้ไขลงไปในจุดที่บาดเจ็บ เทคโนโลยีนี้มีชื่อว่า “Shockwave หรือคลื่นกระแทก” ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการรักษาทางกายภาพบำบัดชนิดหนึ่ง และเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
Shockwave มีคุณสมบัติทางฟิสิกส์ที่จำเพาะที่มีการใช้คลื่นพลังงานที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาอาการปวด และช่วยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่บาดเจ็บเรื้อรัง ทำให้กลุ่มโรคที่เหมาะสมที่จะใช้เทคโนโลยีนี้ในการรักษา คือ กลุ่มความผิดปกติของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น เช่น โรครองช้ำ ปวดเอ็นร้อยหวาย หรืออาการปวดเรื้อรังโรค Office Syndrome นั่นเอง
ทั้งนี้ การรักษาด้วยวิธีการดังกล่าวถือว่าค่อนข้างได้ผลดี ผู้ป่วยมีอาการปวดที่ลดลงภายหลังจากการรักษาตั้งแต่ครั้งแรก และสามารถหายปวดได้เองในภายหลังหากมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง 3-4 ครั้ง
เหตุใด Shockwave จึงสามารถที่จะทำให้เราหายจากโรคที่แสนทรมานนี้ ? ลองมาหาคำตอบกันได้เลยค่ะ
Shock Wave therapy เป็นการใช้อุปกรณ์ประสิทธิภาพสูงในการนวดผ่อนคลายอย่างเหนือระดับ โดยคลื่นกระแทกหรือ Shock Wave จะเข้าไปด้วยอนุภาคเสียงที่มีความเร็วสูง ในแต่ละจุดจะมีการยิงขึ้นไป 1,000-2,000 นัด หรือประมาณ 5 นาทีต่อ 1 จุด เพื่อทำให้เกิดผลในการลดความเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว
การรักษาด้วยคลื่นกระแทกจะทำการรักษาเพียงแค่ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อเว้นระยะห่างให้ร่างกายได้มีโอกาสในการซ่อมแซมตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจะเป็นการลดความเจ็บปวด กระตุ้นการซ่อมสร้างเนื้อเยื่อ และช่วยให้เกิดการไหลเวียนเลือดเฉพาะจุด
เครื่องมือการรักษานี้ถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และสามารถที่จะเห็นผลการรักษาได้เป็นอย่างดีและยั่งยืน เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องมือทางกายภาพบำบัดอื่นๆที่มีอยู่ในปัจจุบัน แม้จะต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่มีราคาแพง แต่ผู้คนก็ยอมที่จะจ่ายเพื่อหวังให้การรักษาเห็นผลได้ดี
ทั้งนี้ สําหรับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา ด้วย Shock Wave จะต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ด้านเวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งไม่ได้เป็นการรักษาเพียงแค่ครั้งเดียวจบ แต่จําเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และป้องกันไม่ให้ปัญหาเดิมๆกลับมามีอาการเช่นเดิมอีก
ทั้งนี้ มีข้อห้ามใช้สำหรับผู้ที่มีอาการป่วยบางโรค เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น โรคเส้นเลือดอุดตัน โรคเลือดจับตัวเป็นก้อน โรคมะเร็ง โรคเนื้องอก สตรีมีครรภ์ หรือเด็กที่กำลังเจริญเติบโต เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้มักมีความเสี่ยง อาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงบางอย่างได้หากได้รับการรักษาด้วยวิธีนี้
แต่สำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็อาจจะเกิดผลข้างเคียงได้เช่นเดียวกัน ซึ่งผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นสำหรับคนทั่วๆไปอาจจะเป็นในลักษณะของอาการบวม เกิดจ้ำเลือด ผื่นแดง หรือห้อเลือด แต่อาการต่างๆเหล่านี้จะหายไปภายใน 5 ถึง 10 วัน ขึ้นกับแต่ละบุคคล จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวลใจแต่อย่างใด

การรักษาอาการในกลุ่มออฟฟิตซินโดรมโดยส่วนใหญ่จะเป็นการทํากายภาพบําบัด ซึ่งในผู้ป่วยหลายๆรายอาจต้องใช้การรักษามากกว่า 1 วิธี เพื่อให้ทุกๆวิธีในการรักษาเข้าไปส่งเสริมกัน และทำให้ผู้ป่วยหายดีได้เร็วมากที่สุด ซึ่งหนึ่งในการรักษาที่ได้ผล ก็คือ การรักษาด้วยคลื่นกระแทก ซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่ช่วยตอบโจทย์การทลายความปวดเมื่อยของผู้คนได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าหากคุณได้รับการรักษาด้วยวิธีการนี้แล้ว จะทำให้ปัญหาที่มีหายไป และทำให้การใช้ชีวิตกลับมามีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมที่จะแก้ไขที่ต้นเหตุด้วยเช่นกัน เพราะหากยังคงใช้ชิวิตแบบผิดๆ นั่งทำงานด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสม การรักษาด้วยวิธีการใดๆก็คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่คุณมีอยู่ได้ อีกทั้งยังต้องเสียเงินด้วยค่าใช้จ่ายซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อคลายความปวดเมื่อยที่ไม่มีวันหายไป ดังนั้น การพยายามที่จะใช้ชีวิตให้ถูกต้อง หรือมีการปรับอิริยาบถและปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจําวันอย่างเหมาะสม จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องมาแก้ไขที่ปลายเหตุแบบนี้อีก