เลือกที่นอนอย่างไรให้เหมาะกับเรา
การนอนหลับเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรที่จะทำให้ได้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อการพักผ่อนที่เต็มที่และเป็นช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายร่างกาย ซึ่งหากคุณต้องการที่จะนอนหลับได้ดีที่สุด สิ่งสำคัญก็คือการเลือกเตียงนอนที่เหมาะสม มีความสามารถในการรองรับสรีระ และลดอาการปวดเมื่อยจากการนอนผิดท่าได้
ในวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการในการเลือกซื้อเตียงนอนที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะสมกับเตียงนอนในรูปแบบเดียวกันทั้งหมด ความแตกต่างของสรีระมีผลอย่างยิ่งต่อการเลือกซื้อที่นอน โดยมีหัวข้อที่ควรที่จะสนใจ ดังต่อไปนี้
1 เลือกขนาดของเตียงนอน
เตียงนอนขนาดมาตรฐานประกอบไปด้วยขนาด 3.5, 5 และ 6 ฟุต ซึ่งหากคุณเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่ การเลือกที่นอนที่ไซต์เล็กมากเกินไปอาจจะทำให้คุณรู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายได้ เพราะมีพื้นที่ที่พลิกตัวไม่เพียงพอ หรือแม้กระทั่งคุณอาจจะเป็นคนเล็กแต่ชอบนอนดิ้น การเลือกเตียงนอนที่แคบจนเกินไปก็จะไม่เหมาะกับคุณเช่นเดียวกัน
ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องพิจารณาทั้งในส่วนของรูปร่างของตัวเองและพฤติกรรมในการนอนหลับ รวมไปถึงความจำกัดของพื้นที่เพื่อให้การเลือกซื้อที่นอนตอบโจทย์ในทุกๆความเป็นตัวคุณ

2 เลือกระดับความแข็งของที่นอน
คุณสามารถที่จะเลือกระดับความนิ่มหรือแข็งได้ตามที่คุณชอบ แต่หากคุณเลือกไม่เหมาะสมอาจจะทำให้กระดูกสันหลังของคุณอยู่ในรูปทรงที่ผิดเพี้ยน และเกิดเป็นปัญหาปวดหลังเรื้อรังได้
ทั้งนี้ เรามีข้อแนะนำว่าสำหรับคนที่มักจะมีอาการปวดหลังบ่อยๆ ควรเลือกที่นอนที่ค่อนข้างแน่นหรือแข็ง เพราะจะทำให้หลังของคุณกระชับกับที่นอนได้ดีกว่าแบบนุ่ม แต่หากรู้สึกว่าการเลือกซื้อที่นอนมานั้นแข็งเกินไป อาจจะแก้ไขด้วยการหาแผ่นรองที่นอนท็อปเปอร์มาใช้เสริมบนเตียงนอนคุณก็ได้ ก็จะช่วยทำให้คุณหลับสบายได้มากขึ้น
3 ท่านอนของตัวเอง
แต่ละคนก็มักจะมีท่านอนประจำตัวที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งท่านอนที่ไม่เหมือนกันอาจจะมีผลต่อการเลือกที่นอนที่แตกต่างกันออกไป เช่น
หากคุณเป็นคนชอบนอนตะแคง การกดทับของกระดูกด้านข้างจะมากกว่าส่วนอื่น จึงควรเลือกที่นอนแบบที่มีส่วนประกอบของเมมโมรี่โฟม เพราะที่นอนแบบนี้จะมีความยืดหยุ่นและช่วยลดแรงกดทับ รวมไปถึงมีการปรับเปลี่ยนรูปทรงและคืนตัวอย่างช้าๆ
แต่หากคุณชอบนอนหงาย การเลือกที่นอนยางพาราจะช่วยทำให้มีการกระจายของน้ำหนักได้ในทุกส่วน และมีผลทำให้ระบบหมุนเวียนโลหิตดีขึ้น จึงช่วยลดอาการปวดหลังได้อย่างดีเยี่ยม
ดังนั้น การพิจารณาท่านอนของตัวเองเป็นสำคัญ จึงมีผลต่อการเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับตัวคุณมากที่สุดนั่นเอง
4 เลือกที่นอนให้เหมาะกับวัย
อายุที่เปลี่ยนแปลงไปอาจจะทำให้คุณจำเป็นจะต้องเปลี่ยนที่นอนตามช่วงอายุด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากคุณยังคงเป็นเด็กอ่อน ที่นอนจำเป็นที่จะต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันการตกของเด็ก หรือไม่มีช่องว่างให้ศีรษะของเด็กเข้าไปติด
แต่หากเป็นเตียงนอนของผู้สูงอายุควรที่จะเลือกพวกที่ค่อนข้างแข็งและหนา และมีความสูงของที่นอนที่ไม่มากจนเกินไป เพื่อให้สะดวกต่อการขึ้นลงเตียงของผู้สูงอายุ ทั้งนี้การเลือกที่นอนของผู้สูงอายุควรเลือกที่นอนแบบกว้างมากพอที่จะสามารถพลิกตะแคงตัวได้ง่ายด้วย
5 เลือกที่นอนตามน้ำหนัก
น้ำหนักเจ้าของผู้ใช้งานมีความสำคัญต่อการเลือกที่นอนเป็นอย่างมาก หากคุณเป็นคนที่มีรูปร่างใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก ก็เหมาะกับการเลือกที่นอนที่มีความหนาแน่นสูง เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักและป้องกันการยุบตัวของที่นอนได้ เพราะหากคุณเลือกแบบที่บางเกินไป อาจจะทำให้เกิดเป็นอาการปวดหลังตามมาเรื้อรังได้

6 ทดลองนอนจริงก่อนซื้อ
หลังจากที่คุณเลือกแล้วว่าตัวเองเหมาะกับที่นอนแบบไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดก่อนที่จะจ่ายเงิน ก็คือ ควรจะหาเวลาไปทดลองนอนจริงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ โดยอาจจะเดินไปที่โชว์รูมหรือร้านขายที่นอน และทดลองนอนประมาณ 15-20 นาที ลองพลิกตัวไปมา เพื่อดูว่าที่นอนรองรับสรีระของคุณได้ดีมากแค่ไหน รู้สึกสบายหรือไม่ หรือเป็นความรู้สึกปวดอวัยวะต่างๆแทน
การตัดสินใจทดลองนอนก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะให้คุณสามารถที่จะตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้ายได้ดีที่สุด เพราะหากซื้อมาแล้วคงยากที่จะขอคืนเงินหรือเปลี่ยนของ คงทำได้แค่ทนนอนต่อไปเท่านั้น
การเลือกที่นอนจำเป็นจะต้องพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละปัจจัยตามที่กล่าวไปข้างต้น และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญที่สุดก็คือ ‘ราคา’ ซึ่งย่อมมีความแปรผันไปตามคุณภาพของที่นอน ลองพิจารณาเงินในกระเป๋าควบคู่ไปกับความต้องการของตัวคุณ ก็เชื่อมั่นว่าคุณจะสามารถเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับตัวเองได้มากที่สุดอย่างแน่นอน
หากเราสามารถนอนหลับพักผ่อนบนที่นอนที่เหมาะสมกับตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ ก็ย่อมเป็นผลดีที่สามารถทำให้ร่างกายได้รับการดูแลไปด้วย เพราะฉะนั้น อย่ามองข้ามความสำคัญของเตียงนอนโดยเด็ดขาด เพราะสิ่งนี้จะเติมเต็มช่วงเวลาการพักผ่อนที่สำคัญ และทำให้คุณห่างไกลจากโรคได้