เมื่อการนอนหลับตอนกลางคืนจะต้องพบเจอกับปัญหาของไรฝุ่น ก็คงจะทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัว และไม่สบายใจอย่างแน่นอน แล้วจะต้องทำอย่างไรจึงจะทำให้เตียงนอนนุ่มๆของคุณปลอดภัยจากไรฝุ่นแสนอันตรายเหล่านี้ มาหาคำตอบไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ

    ตัวไรฝุ่น คือ สัตว์ชนิดหนึ่งที่มีขนาดเล็กมากๆจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สัตว์ชนิดนี้จัดอยู่ในจำพวกแมลง แต่มีลักษณะคล้ายกับแมงมุมที่มีขา 8 ขา และชอบอาศัยอยู่ในบ้านไม่ไกลจากตัวเรา อาหารจานโปรดของตัวไรฝุ่นเหล่านี้ ก็คือ เซลล์ผิวหนังของคนและสัตว์เลี้ยงที่หลุดลอกออกมาติดอยู่ตามเครื่องใช้หรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆภายในบ้าน ซึ่งมีมากเพียงพอที่จะเลี้ยงให้สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้เจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี และถึงแม้จะไม่มีคนอยู่ในบ้าน เจ้าไรฝุ่นก็สามารถรับประทานอาหารที่ได้จากเส้นใยผ้าและขนสัตว์แทนได้ด้วย

    จำนวนของตัวไรฝุ่นจะเพิ่มมากที่สุดในช่วงฤดูร้อนในสภาพอากาศที่ร้อนชื้น และลดจำนวนลงเหลือน้อยที่สุดในช่วงฤดูหนาว โดยจะสังเกตได้ว่าไรฝุ่นเหล่านี้จะชอบอาศัยอยู่ในที่สถานที่ที่อุ่น ชื้น และเต็มไปด้วยฝุ่นละออง ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมพวกมันจึงมักจะถูกพบได้มากตามอุปกรณ์เครื่องนอน เช่น เตียงนอน หมอนหนุน หรือผ้าห่ม เป็นต้น อีกทั้ง ครอบครัวไรฝุ่นจะขยายเผ่าพันธุ์ของมันออกมาเรื่อยๆเมื่ออยู่ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม โดยไรฝุ่นเพศเมียจะวางไข่สูงถึงวันละ 60-100 ฟอง เพื่อเพิ่มจำนวนลูกหลานของมันให้มากขึ้นๆในแต่ละวัน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วบนเตียงนอน 1 เตียง อาจจะสามารถพบตัวไรฝุ่นได้มากเป็นหลายล้านตัวเลยทีเดียว ดังนั้น การที่เราใช้เวลาในการพักผ่อนบนที่นอนประมาณวันละ 8 ชั่วโมง ก็คงเพียงพอที่จะทำให้เจ้าวายร้ายตัวนี้เข้ามาใกล้ชิดและทำร้ายสุขภาพของเราจนทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ได้แล้ว

    ปัญหาที่มักพบสำหรับใครที่แพ้ไรฝุ่น ก็คือ จะทำให้เกิดอาการจามอย่างหนัก มีอาการคันตามผิวหนัง น้ำตาไหล ไอ เวียนศีรษะ หมดแรง หายใจไม่สะดวก ทำให้เกิดการบวมและการระคายเคืองของทางเดินหายใจตอนต้น ตาอักเสบ ปวดศีรษะ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร

    หากยังไม่อยากให้เกิดอาการดังกล่าวข้างต้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องควบคุมปริมาณของตัวไรฝุ่นในห้องนอนให้อยู่ในปริมาณที่น้อยที่สุด ซึ่งวิธีในการลดสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้ สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

    อย่างที่บอกข้างต้นว่า เจ้าไรฝุ่นจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะอากาศร้อนชื้น ดังนั้น หากเราสามารถกำจัดสภาวะการเจริญเติบโตที่เหมาะสมเหล่านี้ออกไปได้ ก็จะทำให้เจ้าไรฝุ่นเจริญเติบโตได้ไม่ดีดังเดิม วิธีการง่ายๆ เช่น การพยายามหลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ที่ทำด้วยผ้าหรือการใช้พรมปูพื้น แล้วหันมาใช้วัสดุที่ทำด้วยไม้แทน การหมั่นคลุมเตียงนอนและหมอนด้วยผ้าคลุมพลาสติกหรือผ้าคลุมป้องกันไรฝุ่น เพื่อลดการสะสมตัวของไรฝุ่นบนที่นอนของเรา นอกจากนี้ ก็ต้องพยายามใส่ใจในเรื่องความสะอาด โดยการหมั่นซักผ้าปูที่นอนและผ้าห่มทุกๆ 2-4 สัปดาห์ด้วยน้ำร้อนประมาณ 55-60 ^oC หรือเช็ดทำความสะอาดหน้าต่างและพื้นห้อง ด้วยผ้าหมาดๆที่ชุบน้ำยาทำความสะอาดโดยไม่ต้องกวาดพื้น เพื่อป้องกันไม่ให้ฝุ่นและไรฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นมา ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยกำจัดไรฝุ่นได้ดีเช่นกัน หากเป็นไปได้ก็ควรเปิดหน้าต่างให้แสงแดดและอากาศผ่านเข้ามาในห้องบ้าง ห้องจะได้ไม่ชื้นจนเกินไป และทำให้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆถูกลมพัดออกไปบ้าง ส่วนของประดับหรือตุ๊กตาต่างๆก็ต้องอย่าลืมนำไปซัก ตากแดด หรืออบร้อนในเครื่องอบผ้าเสียบ้าง จะได้ไม่เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่นพวกนี้

    แม้ว่าการนำเอาเตียงนอนไปตากแดดเพื่อฆ่าไรฝุ่นอาจจะไม่ได้มีผลที่ดีมากนัก เพราะอุณหภูมิของแสงแดดยังอาจไม่เพียงพอต่อการทำลายไรฝุ่นเหล่านี้ได้ แต่อย่างน้อยการได้ปล่อยให้เตียงนอนของคุณสัมผัสกับแสงแดดภายนอกบ้าง ก็มีผลทำให้ความอับชื้นบนที่นอนลดน้อยลง ซึ่งเป็นสภาวะที่ไม่เหมาะต่อการขยายเผ่าพันธุ์ของเจ้าไรฝุ่น

    การหลีกเลี่ยงการใช้พรมในห้องนอน ถือเป็นแนวทางการป้องกันไรฝุ่นที่เหมาะสมที่สุด เพราะเจ้าไรฝุ่นเหล่านี้ชอบมากๆที่จะซุกตัวอยู่ภายในพรมนุ่มๆเหล่านี้ ดังนั้น หากไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พรมในห้องนอนจริงๆ ก็ควรจะเอามันออกไปซะ เพราะจะเป็นการลดจำนวนไรฝุ่นที่สะสมอยู่ในห้องนอนของคุณได้อีกเยอะเลยทีเดียว

    อีกหนึ่งวิธีที่สามารถป้องกันได้เลยที่ต้นเหตุ ก็คือ การใช้เครื่องนอนที่ทำจากวัสดุสังเคราะห์อย่าง ‘โพลีพร็อพพีลีน’ วัสดุประเภทนี้จะเป็นการทอเป็นเส้นใย 3 ชั้น ที่มีประสิทธิภาพในการดักจับตัวไรฝุ่นและมูลของมันได้เป็นอย่างดี

    ลองนำวิธีเหล่านี้ไปทำกันดูนะคะ รับรองว่าใครที่เคยตื่นเช้ามาพร้อมอาการคัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ จามบ่อยๆ หรือบางทีก็มีน้ำตาไหล ตาบวม หรือเป็นผื่นคัน ก็น่าจะสามารถลดอาการเหล่านี้ลงได้บ้าง และจะทำให้คุณมีความสุขกับการนอนหลับฝันดีได้อย่างยาวนานมากขึ้นแน่นอน