เค้าว่ากันว่ายิ่งเราแก่ตัวลง ความจำก็จะเริ่มจางหายไปบ้างตามกาลเวลา บางครั้งบางคราวอาจจะเกิดอาการหลงๆลืมๆอะไรไปบ้างตามประสาคนแก่ ซึ่งหากเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆก็คงจะพอให้อภัยกันได้ แต่ในบางครั้งอาการหลงลืมก็อาจจะนำพาอันตรายมาสู่เราได้เช่นกัน ดังนั้น หากจะพอมีตัวช่วยมาชะลออาการเหล่านี้ได้บ้างก็คงจะดีไม่ใช่น้อยเหมือนกัน
การทำงานที่จำเป็นต้องใช้สมองมากๆ ต้องคิดวิเคราะห์ตลอดเวลา ประกอบกับการขาดการดูแลด้านการเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้อง อาจทำให้คุณเลือกบริโภคอาหารที่ผิดเพื้ยนไปจากอาหารปกติที่ควรจะเป็นได้ ซึ่งการหักโหมใช้งานโดยขาดการบำรุงเช่นนี้ ย่อมมีผลทำให้เซลล์สมองที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดความจำดีๆถูกทำลายไปได้
หนึ่งในวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์สมองที่แสนสำคัญนี้ถูกทำลายไป ก็คือ “การบริโภคอาหาร” ซึ่งในบางคนอาจเลือกที่จะรับประทานวิตามินหรือเกลือแร่ที่มีวางจำหน่ายทั่วไปตามท้องตลาด แต่สำหรับวิธีที่จะขอนำเสนอในวันนี้จะเป็นการนำเอาสมุนไพรมาใช้ประโยชน์ในการบำรุงสมอง จะมีสมุนไพรชนิดใดบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ
สมุนไพรชนิดแรกที่จะช่วยป้องกันการตายหรือการเสื่อมสภาพของเซลล์สมองมีชื่อว่า “แปะก๊วย (Ginkgo Biloba)” สมุนไพรจีนชนิดนี้ถือเป็นยาอายุวัฒนะที่สามารถบำบัดโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยบำรุงสมอง เพิ่มสมาธิ และเสริมความจำให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม เชื่อกันว่าสารสกัดที่ได้จากใบแปะก๊วยจะมีสารที่ชื่อว่า ‘Flavonoids’ และ ‘Terpenoids’ สารพวกนี้จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะคอยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตไปสู่สมองและอวัยวะอื่นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สามารถป้องกันภาวะสมองเสื่อมสมรรถภาพ หรือป้องกันอาการหลงลืมในผู้สูงอายุจนกลายเป็นโรคความจำเสื่อมที่เรียกว่า “อัลไซเมอร์ (Alzheimer disease)” ได้ ดังนั้น ใครยังไม่อย่าขี้ลืมตอนแก่ ก็ลองศึกษาสรรพคุณของแป๊ะก๊วยเอาไว้มากๆนะคะ รับรองว่าอาการหลงๆ ลืมๆ จะไม่เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน
“ใบบัวบก (Gotu kola)” ถือเป็นสมุนไพรที่พบได้มากในบ้านเรา และไม่ได้มีดีแค่การเป็นสมุนไพรแก้ช้ำในเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ใบบัวบกยังสามารถใช้เป็นตัวช่วยในการเสริมเพิ่มความจำได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะใบบัวบกได้รับการรับรองแล้วว่ามีสรรพคุณในด้านการบำรุงประสาทและสมอง อีกทั้งยังช่วยลดความบกพร่องในเรื่องการเรียนรู้และความจำได้ดีอีกด้วย โดยใบบัวบกจะออกฤทธิ์ในการเพิ่มความแข็งแรงของหลอดเลือดที่เชื่อมต่อไปยังสมอง เป็นผลให้หลอดเลือดเล็กๆเหล่านี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งก็จะส่งผลให้การลำเลียงอาหาร และออกซิเจนถูกส่งไปถึงยังเซลล์สมองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย นอกจากนี้ สารในกลุ่ม triterpenes ที่พบได้ในใบบัวบกก็มีฤทธิ์อ่อน ๆ ในการกระตุ้น cholinergic mechanism ในร่างกาย ช่วยให้ความเครียดและความกังวลภายในจิตใจลดน้อยลง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้น ใครที่อยากจะมีความจำดีๆ หรือมีสมองที่ปลอดโปร่ง ก็ลองไปหาซื้อใบบัวบกมารับประทานกันดู จะรับประทานในรูปแบบผักจิ้มแบบสดๆ หรือนำมาคั้นเป็นน้ำแล้วดื่มรับประทาน ก็แล้วแต่ทุกท่านจะสะดวก แต่รับรองได้เลยว่า ไม่ว่าจะรับประทานในรูปแบบไหนก็ล้วนได้รับประโยชน์จากสมุนไพรชนิดนี้ได้อย่างแน่นอนไม่แพ้กัน
ต่อมาที่สมุนไพรอีกชนิดที่ว่ากันว่าช่วยต้านอาการขี้หลงขี้ลืมได้เช่นกัน นั่นก็คือ “พรมมิ” สมุนไพรน้องใหม่ที่ชื่ออาจจะฟังไม่คุ้นหู แต่ถ้าได้รับรู้ถึงสรรพคุณอันแสนวิเศษของมันแล้วละก็ รับรองได้เลยว่าคุณจะแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว สมุนไพรชนิดนี้ได้รับการยอมรับว่าสามารถช่วยบำรุงความจำ และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้เป็นอย่างดี โดยสารสกัดที่ได้จากต้นพรมมิจะมีสาร ‘ซาโปนิน (saponins)’ ที่สามารถชะลอการเสื่อมของเซลล์สมอง มีผลกระตุ้นความจำและการเรียนรู้ได้ นอกจากนี้ยังช่วยในการป้องกันการถูกทำลายของเซลล์ประสาท ซึ่งสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ผู้สูงอายุเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วย
ส่วน “โสม” ก็นับเป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรช่วยบำรุงประสาทและสมอง เสริมความจำ ป้องกันภาวะความจำเสื่อม หรือช่วยในการเรียนรู้ได้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นโสมเข้าไปมีบทบาทในอาหารเสริมหลายชนิด
เนื่องจากโสมมีคุณสมบัติในการช่วยปรับสภาพร่างกายและจิตใจให้ทนต่อความกดดันจากภายนอก โดยการปรับสมดุลของฮอร์โมน และเร่งขบวนการเผาผลาญอาหารเพื่อปลดปล่อยพลังงานออกมาต่อต้านความเครียด การใช้โสมปริมาณน้อยๆจะมีฤทธิ์ช่วยในการกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย สมองปลอดโปร่ง และไม่ต้องแอบงีบหลับระหว่างวันได้ ในทางตรงข้าม หากใช้โสมในปริมาณมากจนเกินไปอาจทำให้โสมออกฤทธิ์ไปกดประสาท ซึ่งเป็นผลให้เกิดอาการเซื่องซึม หรือมีผลต่อการได้ยินและการมองเห็นได้
หากคิดจะบำรุงสมองด้วยสมุนไพรแล้ว ก็อย่าลืมศึกษาถึงสรรพคุณของมันให้ดีด้วยนะคะ อย่าเชื่อแต่เพียงคำบอกเล่าแบบปากต่อปากเพียงเท่านั้น เพราะบางครั้งการเชื่อคำโฆษณาโดยขาดวิจารณญาณ อาจมีผลให้คุณได้รับอันตรายแบบไม่ทันตั้งตัวเลยก็เป็นได้
