ใครมีปัญหาแบบนี้บ้างค่ะ “อ้วนก็ไม่อ้วน” “ออกกำลังกายก็ออกแล้ว” แต่ทำไมยังตรวจพบว่า “ปริมาณคอเลสเตอรอลสูง” อยู่อีก ถ้าคุณกำลังมีปัญหาเช่นนี้ แนะนำให้ลองอ่านบทความต่อไปนี้ดูค่ะ แล้วจะรู้ว่าทำไม?

    ปริมาณคอเลสเตอรรอลในเลือดกับสรีระของคนเราไม่ได้มีความสัมพันธ์กันเสมอไปหรอกค่ะ บางคนที่มีรูปร่างผอมแบบหนังหุ้มกระดูกก็มีโอกาสจะมีคอเลสเตอรอลสูงได้ ในขณะที่คนอ้วนบางคนกลับตรวจพบว่ามีปริมาณคอเลสเตอรอลอยู่ในระดับปกติ สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่อะไรเลยค่ะ นอกเสียจาก “อาหาร” ที่คุณเลือกที่รับประทานเข้าสู่ร่างกายนั่นเอง

    การรับประทานอาหารเพื่อควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องทำด้วยความตั้งใจและทำอย่างต่อเนื่อง โดยหลักการง่ายๆก็คือ “การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันมากๆ โดยเฉพาะอาหารที่มีกรดไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอลสูงๆ” แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารอะไรบ้างที่ควรหรือไม่ควรกิน เรามีคำตอบเตรียมไว้ให้คุณแล้วค่ะ ตามมาเลย

    โปรตีนเป็นสารอาหารที่เราจำเป็นต้องบริโภค แต่โปรตีนบางชนิดก็อาจจะมีไขมันพ่วงติดมาด้วยตามธรรมชาติ ซึ่งเรามีหน้าที่ที่จะต้องคัดกรองเอาไขมันส่วนที่มากเกินไปนี้ออก เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายแบบที่ดีต่อสุขภาพ หนึ่งในวิธีที่ควรทำ ก็คือ การคัดเลือกวัตถุดิบเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หรือตัดแต่งเอาหนังและไขมันออกจากเนื้อสัตว์ก่อนจะนำไปประกอบอาหาร ส่วนวิธีในการประกอบอาหารก็ถือเป็นส่วนที่สำคัญเช่นกัน การทอดที่ต้องใช้น้ำมันมากๆเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงสำหรับคนที่กำลังควบคุมอาหาร แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ก็ควรเลือกใช้กระทะที่เคลือบด้วยสารเทฟลอนที่จะช่วยไม่ให้อาหารติดกระทะ และใช้น้ำมันให้น้อยที่สุด ส่วนน้ำมันที่ใช้ก็ควรเป็นน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันไลโนเลอิกสูง เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันข้าวโพด เป็นต้น การรับประทานอาหารที่มีกรดไขมันไลโนเลอิกประมาณร้อยละ 7-10 ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ เพราะมีการเปลี่ยนคอเลสเตอรอลอิสระให้ไปเป็นคอเลสเตอรอลไลโนเลเอทเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีการเผาผลาญของคอเลสเตอรอลที่ตับเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง แต่ถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น ก็ควรหันมาประกอบอาหารในรูปแบบอบ ต้ม นึ่ง หรือ ย่างแทน เพราะนอกจากจะมีส่วนประกอบของน้ำมันที่น้อยกว่าแล้ว การประกอบอาหารด้วยวิธีดังกล่าวยังปลอดภัยมากกว่าการทอดด้วยน้ำมันด้วย ส่วนเครื่องปรุงต่างๆที่ใช้ในการเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยถูกปาก ก็ควรเลือกแบบที่มีน้ำตาล เกลือ กะทิ หรือเนย ในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วหันไปเพิ่มรสชาติด้วยเครื่องเทศ สมุนไพร หรือซอสจากผลไม้มาช่วยเติมเต็มความอร่อยแทน

    ทีนี้ลองมาดูคร่าวๆกันดีกว่า ว่าอาหารชนิดใดควรรับประทานเท่าไรต่อวัน ซึ่งข้อมูลนี้เป็นคำแนะนำสำหรับประชาชนวัยผู้ใหญ่ๆทั่วไป ที่สรุปมาจากสมาคมแพทย์โรคหัวใจของประเทศสหรัฐอเมริกา

โดยสรุปแล้ว การรับประทานอาหารต่อวันของคนเรา ควรจะให้มีพลังงานรวมเพียงพอต่อน้ำหนักตัวในแต่ละบุคคล และควรได้รับคอเลสเตอรอลในปริมาณไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม เพื่อให้ร่างกายมีการนำเอาคอเลสเตอรอลบางส่วนไปใช้ในการเจริญเติบโต หรือเป็นส่วนประกอบในเซลล์บางชนิด เพื่อขับเคลื่อนให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากรับประทานคอเลสเตอรอลเกินกว่าความต้องการที่ควรจะเป็น ก็จะส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงที่จะเกิดโรคภัยต่างๆได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง

    การเลือกรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ถือเป็นรากฐานที่สำคัญในการป้องกัน และรักษาภาวะคอเลสเตอรอลในเลือดสูง หากคุณเป็นคนหนึ่งที่จะต้องเผชิญกับภาวะดังกล่าวนี้ ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาถึงแนวทางในการปฏิบัติตัว รวมถึงวิธีการในการบริโภคอาหารอย่างถูกต้อง เพื่อควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งการควบคุมที่ถูกต้องนั้นจะต้องใส่ใจและตั้งใจอย่างต่อเนื่อง และทำให้ติดเป็นนิสัย ทุกอย่างที่ทำไปก็ไม่ได้จะเป็นประโยชน์ต่อใครเลย นอกจากตัวคุณทั้งนั้น

    อย่างไรก็ตาม อาการคอเลสเตอรอลในเลือดสูง อาจไม่ได้เกิดมาจากสาเหตุในด้านของการบริโภคที่ผิดปกติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น กรรมพันธุ์ อายุ โรคบางชนิด พฤติกรรมการสูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นกรณีดังกล่าว ก็จำเป็นจะต้องได้รับยาลดคอเลสเตอรอลเพื่อรักษาอาการของโรคนั้นๆ ร่วมกับการควบคุมอาหารไปพร้อมๆกัน ซึ่งหากคุณมีวินัยในการรักษาตัวเองที่ดี ก็จะช่วยเสริมผลการรักษาให้มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นได้ในเร็ววัน
จะเห็นได้ว่า อาหาร สำคัญมากเพียงใดต่อร่างกายของเรา ดังนั้น จะเลือกรับประทานอะไรเข้าไปก็อย่าลืมนึกถึงสุขภาพร่างกายให้ดีด้วยนะคะ