อาหารเสริมเพื่อบำรุงสุขภาพ ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนในยุคปัจจุบันเรียกหามาเพื่อเติมเต็มความสวยงาม หรือความแข็งแรงที่ไม่อาจหาได้จากการบริโภคอาหารในมื้อปกติ ซึ่งหนึ่งในสารอาหารที่คนไทยนิยมนำมาบริโภคเพื่อสร้างเสริมสุขภาพที่ดี และเป็นที่ต้องการอยู่อย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน ก็คงมีชื่อของสารที่เรียกว่า “โคเอ็นไซม์ คิวเท็น (Coenzyme Q10)” หรือที่เราเรียกกันสั้นๆว่า Q10 อยู่ด้วยแน่ๆ
บางคนอาจจะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Q10 ที่คนส่วนใหญ่พูดถึงนั้นคืออะไรกันแน่ รู้แต่เพียงว่า หากได้บริโภคมันเข้าไปแล้ว น่าจะมีผลที่ดีต่อร่างกายได้ไม่มากก็น้อย วันนี้จึงถือเป็นโอกาสดีที่เราจะมาทำความรู้จักกับสารตัวนี้ให้มากขึ้นกันเสียหน่อย จะได้รู้ว่าเราควรจะรับประทานมันเข้าไปในรูปแบบไหนหรือปริมาณเท่าไร จึงจะเกิดผลที่ดีที่สุดต่อตัวเอง
“Q10” ถูกพูดถึงในแง่ของการทำให้อายุยืน ชะลอความแก่ เสริมความสาว ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ป้องกันสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ ป้องกันโรคหัวใจล้มเหลว รวมถึงความสามารถในการป้องกันโรคจากความชราได้ สรรพคุณมากมายขนาดนี้จะจริงหรือมั่ว ชัวร์หรือไม่ มาหาคำตอบไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
โคเอ็นไซม์ คิวเท็น เป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน วิตามินชนิดนี้จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบได้ในทุกเซลล์ของสิ่งมีชีวิต โดยมันจะทำหน้าที่ในการป้องกันเซลล์ไม่ให้ทำปฎิกิริยากับออกซิเจน จึงช่วยให้ร่างกายสามารถนำเอาออกซิเจนมาใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งยิ่งร่างกายมีโอกาสได้รับออกซิเจนมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งส่งผลที่ดีต่อร่างกายมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ Q10 ยังมีหน้าที่ที่สำคัญมากๆในการสร้างพละกำลังให้แก่ร่างกาย โดยการเป็นตัวจุดประกายให้ไมโตรครอนเดียในเซลล์ สามารถสร้างพลังงานให้แก่ร่างกายได้ ดังนั้น หากร่างกายของเราขาดวิตามินชนิดนี้ ก็จะส่งผลให้ร่างกายขาดพลังงานอย่างมหาศาลที่จะไปหล่อเลี้ยงให้ร่างกายมีพลังงานในการขับเคลื่อนชีวิตต่อไป Q10 จึงถือเป็นสิ่งจำเป็นเป็นอย่างมากสำหรับอวัยวะที่ต้องทำงานอย่างหนักตลอดเวลา หรืออวัยวะที่ต้องใช้พลังงานสูงมากเป็นพิเศษ เช่น หัวใจ ตับ หรือ ไต เป็นต้น

นอกจากนี้
Q10
ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดริ้วรอย ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวหนัง ป้องกันผิวหนังอักเสบจากแสงแดด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่เซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังยืดหยุ่นแข็งแรงรักษาโรคเหงือก ชะลอความผิดปกติของโรคพาร์กินสัน หรือช่วยบรรเทาอาการเจ็บหน้าอกได้ดี
ถึงแม้ว่าร่างกายของเราจะสามารถสร้างสาร Q10 ขึ้นเองได้ แต่ตามธรรมชาติแล้วร่างกายจะสร้างได้น้อยลงเรื่อยๆตามอายุที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆจะเสื่อมถอยลง และเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน ก็มักจะพบว่าคนส่วนใหญ่มักจะเกิดภาวะการขาด Q10 ไปได้แบบไม่ต้องสงสัย มากไปกว่านั้น ปัจจัยด้านความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ การได้รับยาหรือสารเคมีบางชนิด ก็ส่งผลให้ปริมาณ Q10 ในร่างกายลดปริมาณลงด้วยเช่นกัน ซึ่งเมื่อร่างกายไม่มีวิตามินตัวนี้หรือมีแต่ไม่เพียงพอ ก็จะส่งผลก่อให้เกิดริ้วรอยตามใบหน้า หรือเกิดโรคต่างๆได้หลายชนิด เช่น โรคชรา โรคสมองเสื่อม เป็นต้น
ดังนั้น การได้รับสาร Q10 อย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายสามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพที่ดี ซึ่งวิธีการที่จะได้รับวิตามินชนิดนี้ก็ทำได้โดยการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยสาร Q10 ที่ส่วนใหญ่จะพบได้ในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า หรือแม้กระทั่งเครื่องในสัตว์อย่างหัวใจและตับ ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารที่ช่วยเสริมสร้างวิตามินที่แสนสำคัญนี้ได้ แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบรับประทานอาหารในกลุ่มนี้ ก็สามารถรับ Q10 ได้จากพืชบางชนิด เช่น ถั่วลิสง และน้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กระบวนการแปรรูปอาหารด้วยกรรมวิธีต่างๆ จะส่งผลให้ปริมาณ Q10 ที่มีอยู่ในอาหารถูกลดทอนให้น้อยลง ซึ่งบางครั้งอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละบุคคล ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้สาร Q10 ถูกสกัดออกมาอยู่ในรูปของอาหารเสริม เพื่อให้ผู้บริโภคเลือกรับประทานเพิ่มเติมได้ตามใจชอบ

ทั้งนี้ มีคำแนะนำในการเลือกบริโภค Q10 ในรูปอาหารเสริมเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ สิ่งที่จะต้องใส่ใจให้มาก ก็คือ รูปแบบของ Q10 ที่เลือกรับประทาน โดยหากต้องการจะให้ได้ผลดี ควรจะเลือกรับประทาน Q10 ที่อยู่ในรูปของน้ำมัน หรือรับประทานพร้อมกับอาหารที่มีไขมัน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารชนิดนี้ได้ง่ายและดีที่สุด ปริมาณที่แนะนำสำหรับผู้ใหญ่ปกติอยู่ที่วันละประมาณ 30 มิลลิกรัม หรืออาจมากกว่านี้ในกรณีที่ผู้ป่วยเป็นโรคชราหรือโรคอื่นๆ ซึ่งหากคุณรับประทานวิตามินเสริมอย่างต่อเนื่องสักประมาณ 2 เดือนขึ้นไป ก็จะเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนว่าสุขภาพของคุณจะมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นเรื่อยๆ
เห็นแล้วใช่หรือไม่ค่ะว่า ‘อาหาร’ สำคัญต่อเรามากเพียงใด แล้วทำไมเราต้องรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะร่างกายจำเป็นจะต้องรับสารอาหารที่เหมาะสมเพื่อใช้ในการเจริญเติบโต หรือป้องกันอันตรายให้แก่อวัยวะต่างๆภายในร่างกายนั่นเอง แต่ถ้าหากว่าเราไม่อาจจะรับประทานอาหารได้ครบตามที่ควรจะเป็น อาหารเสริมก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางออกสำหรับคนจำพวกนี้ เพียงแต่ต้องทราบวิธีที่เหมาะสมในการบริโภค เพื่อประโยชน์และความปลอดภัยต่อร่างกายและสุขภาพนั่นเอง