การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, ลด น้ำ หนัก, ลด อ้วน, ลดความอ้วน, ลดพุง, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้, อาหารลดความอ้วน, อาหารลดน้ำหนัก, อาหารเพื่อสุขภาพ, เกี่ยวกับโรค

ดื่มนมจากข้าว..เพื่อชีวิตที่ยืนยาวกว่า

คนไทยจำนวนมากมักพบปัญหาการแพ้นมวัว ซึ่งนับเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ และจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน ซึ่งวิธีการแก้ไขที่ง่ายที่สุดก็คือ การหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำนมวัวนั้นๆ อย่างไรก็ตาม คนกลุ่มนี้ก็ยังจำเป็นจะต้องได้รับแคลเซียมหรือวิตามินดีเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตอยู่ดี ซึ่งหนึ่งในอาหารที่สามารถใช้ในการทดแทนเครื่องดื่มจากน้ำนมวัวที่จะขอกล่าวถึงในวันนี้ ก็คือ “น้ำนมข้าว” นั่นเอง

    ข้าวนับเป็นอาหารหลักของคนไทยที่ได้รับการยอมรับในเรื่องของความอร่อยและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งนอกจากคนไทยจะนำข้าวมาหุงรับประทานคู่กับกับข้าวได้แล้ว ยังสามารถนำมันมาแปรรูปให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ทดแทนน้ำนมวัวได้อีกด้วย

    แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะยังคงคุ้นเคยและรับประทานนมวัวกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่การรับประทานนมวัวก็มีข้อเสียบางอย่างที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป เพราะเห็นว่าเป็นแหล่งอาหารที่น่าจะมีคุณประโยชน์ที่คุ้มค่ามากกว่า

ดื่มนมจากข้าว..เพื่อชีวิตที่ยืนยาวกว่า
ภาพจาก : http://www.redbookmag.com/recipes-home/tips-advice/non-dairy-milk-recipes-rice#slide-4 ดื่มนมจากข้าว..เพื่อชีวิตที่ยืนยาวกว่า


    แต่เมื่อเรามองลงไปที่โทษของการดื่มนมวัวแล้ว ก็จะพบว่าค่อนข้างอันตรายหากเรารับประทานนมวัวที่ไม่ได้คุณภาพ และดื่มสะสมยาวนานต่อเนื่องหลายสิบปี เนื่องมาจากวัวเป็นสัตว์ที่ง่ายต่อการติดโรค ดังนั้น จึงจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะในปริมาณที่มาก ซึ่งยาปฏิชีวนะนี้มีโอกาสที่จะติดไปกับน้ำนมวัวได้ หากผู้ผลิตไม่ได้มีการคัดกรองวัตถุดิบน้ำนมดิบก่อนการแปรรูปด้วยเครื่องมือมาตรฐาน ก็อาจส่งผลให้เราได้รับอันตรายหากดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เข้าไปมากๆ นอกจากนี้ ในนมวัวยังมีฮอร์โมนที่ใช้สำหรับการเจริญเติบโต หรือ Growth Hormone ซึ่งการที่เราดื่มนมสะสมไปนานๆ ก็มีโอกาสทำให้การเจริญเติบโตผิดแผกไปจากเผ่าพันธุ์เดิมที่เคยเป็นมาได้

    หากเปรียมเทียบส่วนประกอบใน ‘นมวัว’ และ ‘นมข้าว’ ก็ยังพบความแตกต่างกันด้วย โดยในนมข้าวจะมีคาร์โบไฮเดรตสูงกว่า และมีโปรตีนต่ำกว่านมวัว ดังนั้น การดื่มนมข้าวจึงมีผลจะให้ร่างกายย่อยและดูดซึมได้ง่ายกว่า อีกทั้งนมข้าวไม่มีส่วนประกอบของคอเลสเตอรอล เนื่องจากไม่ได้มาจากวัตถุดิบที่เป็นไขมันจากสัตว์ เครื่องดื่มชนิดนี้จึงเหมาะอย่างยิ่งกับคนป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง ซึ่งแม้ว่านมข้าวบางชนิดอาจจะมีส่วนผสมของไขมันอื่นๆบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นไขมันจากพืชที่มีอยู่ในปริมาณไม่มาก และเป็นไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อสุขภาพมากกว่า ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก

    อีกประการที่สำคัญก็คือ นมข้าวไม่มีองค์ประกอบของน้ำตาลแลกโตส ผู้ป่วยที่มีอาการ Lactose Intolerance หรือกลุ่มอาการที่ขาดน้ำย่อยแลกเตสที่ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลในนมวัว จึงสามารถรับประทานนมข้าวทดแทนน้ำนมวัวได้ ส่วนโปรตีนในนมข้าวก็เป็นโปรตีนที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยเกิดอาการแพ้เหมือนอย่างโปรตีนเคซีนในนมวัวหรือโปรตีนจากถั่ว ดังนั้น ใครที่แพ้ง่ายจึงมั่นใจได้ว่า การรับประทานนมข้าวจะมีความปลอดภัยมากกว่าการรับประทานนมชนิดอื่นๆ

    ในด้านของการดูดซึมสารอาหารจากนมวัวเข้าสู่ร่างกาย พบว่า มนุษย์เราสามารถดูดซึมโปรตีนได้เพียงแค่ร้อยละ 82 ส่วนอีกร้อยละ 18 จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกายไม่ได้ และโปรตีนส่วนนี้จะถูกแบคทีเรียย่อยสลาย จนเกิดเป็น Immune Complex หรือสารก่อภูมิแพ้ตัวใหม่ๆที่อาจทำอันตรายแก่ร่างกายได้ ส่วนประโยชน์ในด้านการบำรุงกระดูก ก็พบว่าในนมวัวจะมีแคลเซียมอยู่ประมาณ 3 ส่วนและฟอสฟอรัส 2 ส่วน การดื่มนมวัวมากกว่า 500 มิลลิลิตร จะส่งผลให้ร่างกายได้รับปริมาณฟอสฟอรัสที่มากเกินจำเป็น ซึ่งฟอสฟอรัสที่มากเกินไปนี้จะกระตุ้นต่อมพาราไทรอยด์ให้หลั่งฮอร์โมนออกมาสลายกระดูก จนเป็นเหตุให้มวลหรือเนื้อกระดูกบางลง หรือทำให้กระดูกไม่แข็งแรงตามอย่างที่ควรจะเป็น แต่ในกรณีของนมข้าวจะไม่พบปัญหาเช่นนี้เนื่องจากมีโปรตีน แคลเซียม และฟอสฟอรัสที่น้อยกว่า

ดื่มนมจากข้าว..เพื่อชีวิตที่ยืนยาวกว่า
ภาพจาก : http://www.richricemilk.com/ ดื่มนมจากข้าว..เพื่อชีวิตที่ยืนยาวกว่า

    นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่บ่งชี้ให้เห็นว่าการรับประทานนมวัวอาจเป็นตัวส่งเสริมให้เกิดโรคร้ายบางชนิดได้ ดังที่ ดร.ที คอลลิน แคมพ์เบลล์ ได้ทดลองกับสัตว์ทดลองแล้วพบว่า “หนูทดลองทุกตัวที่ได้รับสารก่อมะเร็งที่ชื่อ อะฟลาทอกซิน หากให้โปรตีนจากนมวัว 20% จะส่งผลให้หนูทั้งหมดจะกลายเป็นโรคมะเร็งในตับ ในขณะที่หนูกลุ่มที่ได้รับโปรตีนจากนมวัว 5% จะไม่มีตัวไหนเป็นมะเร็งเลย”  ในขณะที่การบริโภคโปรตีนจากพืชทั้งจากข้าวและถั่วเหลือง แม้จะใส่ในปริมาณมากถึง 20% ก็ไม่พบการเกิดโรคที่จะพัฒนากลายเป็นเนื้องอกได้

    ส่วนสุดท้ายก็คือ การรับประทานนมข้าวมีความปลอดภัยจากการตัดแต่งทางพันธุกรรม (GMOs) มากกว่าการรับประทานนมถั่วเหลือง ที่ส่วนใหญ่จะถูกตัดแต่งพันธุกรรมมาแล้วทั้งสิ้น

    อย่างไรก็ตาม การรับประทานนมข้าวก็ยังมีข้อด้อยกว่านมวัวตรงชนิดของกรดอะมิโน โดยกรดอะมิโนที่พบในน้ำนมข้าวจะไม่ครบถ้วนเหมือนในน้ำนมวัว โดยนมข้าวจะขาดกรดอะมิโนสำคัญอย่าง Lysine และ Threonine ไป ทำให้ร่างกายจำเป็นต้องไปหาสารอาหารตัวนี้จากแหล่งอาหารอื่นแทน

    โดยสรุปแล้ว นมข้าวก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการควบคุมไขมัน คอเลสเตอรอล แต่ยังคงต้องการสารอาหารที่มีประโยชน์คล้ายกับที่ได้รับในนมวัวอยู่ แม้ว่าในนมข้าวอาจจะมีสารอาหารบางอย่างที่พร่องไป แต่ก็ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมสำหรับคนที่มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหาร และผู้ที่ต้องการมีสุขภาพที่ดีทุกคน





Sending
User Review
0 (0 votes)