การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้

ล้างหน้าบ่อยแค่ไหน

ล้างหน้าบ่อยแค่ไหน

การทำความสะอาดใบหน้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะใบหน้าถือเป็นส่วนของร่างกายที่ค่อนข้างอ่อนโยนและบอบบาง หากเราไม่ให้ความสำคัญกับมันเท่าที่ควร อาจจะทำให้เกิดเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องยาวนานได้

การทำความสะอาดผิวหน้าสามารถทำได้หลากหลายวิธี เริ่มตั้งแต่การล้างหน้า ซึ่งการใช้อุปกรณ์ในการล้างหน้าอาจจะไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับวิธีการที่คุณใช้ ยิ่งถ้าคุณมีสิวมีจุดด่างดำยิ่งจำเป็นจะต้องล้างหน้าให้ถูกวิธี และที่สำคัญก็คือควรที่จะรู้ว่าความถี่ในการล้างหน้าควรที่จะบ่อยมากน้อยแค่ไหน เพราะความจริงแล้วคุณอาจจะล้างหน้าน้อยหรือมากจนเกินไปก็เป็นไปได้

การล้างหน้าที่ไม่สะอาดเป็นประจำ หรือสักแต่ว่าล้างด้วยการเอาน้ำลูบหน้า อาจจะทำให้คุณเกิดเป็นปัญหาผิวตามมาอีกมากมาย หากไม่อยากให้เกิดปัญหาต่างๆเหล่านี้ ก็จำเป็นจะต้องรู้จักวิธีการและความถี่ในการล้างหน้า ว่าสำหรับแต่ละคนควรจะล้างหน้าบ่อยมากน้อยแค่ไหน

ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-in-white-tank-top-washing-her-face-with-soap-8142198/

1 คนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย

เริ่มต้นจากคนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายก่อน คนประเภทนี้ควรที่จะล้างหน้าเพียงแค่วันละ 1 ครั้งในช่วงตอนกลางคืนเพียงเท่านั้น เพราะคุณเป็นคนที่ผิวแห้งและแพ้ง่าย จึงไม่ควรที่จะล้างหน้าบ่อยมากจนเกินไป

การล้างหน้าในช่วงกลางคืนจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันที่ก่อตัวขึ้นตลอดทั้งวันให้หมดไป โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรจะไม่เป็นฟอง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในขณะทำความสะอาดผิวได้

2 คนที่ผิวมัน ผิวผสม หรือเป็นสิว

คนที่ผิวมัน ผิวผสม หรือเป็นสิวง่ายควรที่จะเพิ่มความถี่ในการล้างหน้าเป็น 2 ครั้งต่อวัน โดยเป็นการล้างหน้าในช่วงเช้าและกลางคืน

ทั้งนี้ หากเป็นคนที่หน้ามันควรที่จะมีการเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความสามารถในการขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากใบหน้าได้ด้วย

ส่วนคนที่มีปัญหาผิวหน้าต้องหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมและแอลกอฮอล์ก็ตาม

3 คนที่แต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง

สำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำทุกวัน ก็ควรที่จะล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช่นเดียวกัน โดยเป็นการล้างในช่วงเช้าและช่วงกลางคืน โดยในส่วนของช่วงกลางคืนจะต้องมีการกำจัดเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าออกอย่างหมดจด และใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความสามารถในการกำจัดเครื่องสำอางที่อาจจะเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ เพื่อไม่ให้หลงเหลือและกลายเป็นบ่อเกิดของปัญหาบนผิวหน้าต่อไป

การใช้คลีนเซอร์จะช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกและช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่จะไม่ลอกเอาน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิว

นอกจากนี้ หลังจากใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางแล้ว จะต้องมีการใช้คลีนเซอร์หรือมีการทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้ามีความสะอาดหมดจด

4 คนที่ออกกำลังกายหรือมีเหงื่อออกมาก

สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นนักกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อออกมากๆ คุณอาจจะต้องมีการเพิ่มการล้างหน้ามากขึ้น เพื่อกำจัดเหงื่อไคลที่ไหลออกมาตามความจำเป็นในแต่ละกรณี

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถที่จะอาบน้ำหรือล้างหน้าได้ในทันทีทันใด เช่นอาจจะไม่มีน้ำยาทำความสะอาดอยู่ในมือ ก็ให้ใช้วิธีการใช้ทำความสะอาดด้วยผ้าที่ปราศจากน้ำมัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไปก่อน จนกว่าที่คุณจะได้ล้างหน้าอีกครั้ง

ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-washing-her-face-with-water-2087954/

ในกรณีที่คุณมีความถี่ในการล้างหน้าไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะน้อยหรืออาจจะมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็นในแต่ละสภาพผิวหน้า ก็ย่อมทำให้เกิดเป็นปัญหาสุขภาพผิวหน้าตามมาได้อย่างแน่นอน โดยพอจะสรุปผลกระทบโดยรวมได้ ดังนี้

สำหรับคนที่ล้างหน้าน้อยเกินไป แน่นอนว่าการล้างหน้าที่น้อยเกินไป หลงลืมที่จะดูแลความสะอาดของผิวหน้าตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ย่อมทำให้ผิวหน้าของคุณสกปรก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น เหงื่อ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆที่พบเจอมาตลอดทั้งวัน ย่อมสะสมอยู่บนผิวหน้าของคุณ อาจจะทำให้คุณเกิดปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิวหัวดำหรือสิวอักเสบที่รุนแรงต่อไปได้

ส่วนคนที่ล้างหน้ามากเกินไป สำหรับคนที่ล้างหน้าบ่อยอาจจะเป็นเพราะกลัวว่าหน้าจะไม่สะอาด หรือเป็นเพราะอากาศร้อนจนอยากจะคลายร้อนด้วยการล้างหน้า อาจจะทำให้เกิดเป็นความระคายเคืองของผิว ความแห้งตึงของผิว โดยเฉพาะในคนที่มีความมันบนใบหน้าที่มากกว่าปกติ อาจจะมีผลทำให้ผิวหน้าขับน้ำมันออกมามากกว่าเดิมหลังจากการล้างหน้า เพื่อชดเชยความแห้งจากการล้างหน้านั่นเอง

หากคุณไม่ได้ต้องการความสะอาดใบหน้าเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ได้แต่งหน้าหรือไม่ได้มีการทาครีมใดๆ รวมไปถึงเหงื่อก็ไม่ได้ออกมากมาย คุณอาจจะหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดในตอนเช้า แต่ใช้เพียงตอนกลางคืนอย่างเดียวเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าการล้างหน้าอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ทั้งนี้ หากทำผิดไปด้วยความไม่รู้ อาจจะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อการเกิดการอักเสบของผิวหน้าได้ การเรียนรู้ถึงพื้นฐานของการล้างหน้าตามสภาพผิวของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยหยุดยั้งปัญหาใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้

การทำความสะอาดใบหน้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ เพราะใบหน้าถือเป็นส่วนของร่างกายที่ค่อนข้างอ่อนโยนและบอบบาง หากเราไม่ให้ความสำคัญกับมันเท่าที่ควร อาจจะทำให้เกิดเป็นปัญหาที่ต่อเนื่องยาวนานได้

การทำความสะอาดผิวหน้าสามารถทำได้หลากหลายวิธี เริ่มตั้งแต่การล้างหน้า ซึ่งการใช้อุปกรณ์ในการล้างหน้าอาจจะไม่ได้มีความสำคัญเทียบเท่ากับวิธีการที่คุณใช้ ยิ่งถ้าคุณมีสิวมีจุดด่างดำยิ่งจำเป็นจะต้องล้างหน้าให้ถูกวิธี และที่สำคัญก็คือควรที่จะรู้ว่าความถี่ในการล้างหน้าควรที่จะบ่อยมากน้อยแค่ไหน เพราะความจริงแล้วคุณอาจจะล้างหน้าน้อยหรือมากจนเกินไปก็เป็นไปได้

การล้างหน้าที่ไม่สะอาดเป็นประจำ หรือสักแต่ว่าล้างด้วยการเอาน้ำลูบหน้า อาจจะทำให้คุณเกิดเป็นปัญหาผิวตามมาอีกมากมาย หากไม่อยากให้เกิดปัญหาต่างๆเหล่านี้ ก็จำเป็นจะต้องรู้จักวิธีการและความถี่ในการล้างหน้า ว่าสำหรับแต่ละคนควรจะล้างหน้าบ่อยมากน้อยแค่ไหน

ล้างหน้าบ่อยแค่ไหน. — ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-in-white-tank-top-washing-her-face-with-soap-8142198/

1 คนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย

เริ่มต้นจากคนผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่ายก่อน คนประเภทนี้ควรที่จะล้างหน้าเพียงแค่วันละ 1 ครั้งในช่วงตอนกลางคืนเพียงเท่านั้น เพราะคุณเป็นคนที่ผิวแห้งและแพ้ง่าย จึงไม่ควรที่จะล้างหน้าบ่อยมากจนเกินไป

การล้างหน้าในช่วงกลางคืนจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันที่ก่อตัวขึ้นตลอดทั้งวันให้หมดไป โดยผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรจะไม่เป็นฟอง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในขณะทำความสะอาดผิวได้

2 คนที่ผิวมัน ผิวผสม หรือเป็นสิว

คนที่ผิวมัน ผิวผสม หรือเป็นสิวง่ายควรที่จะเพิ่มความถี่ในการล้างหน้าเป็น 2 ครั้งต่อวัน โดยเป็นการล้างหน้าในช่วงเช้าและกลางคืน

ทั้งนี้ หากเป็นคนที่หน้ามันควรที่จะมีการเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความสามารถในการขจัดน้ำมันส่วนเกินออกจากใบหน้าได้ด้วย

ส่วนคนที่มีปัญหาผิวหน้าต้องหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่เกี่ยวข้องกับการระคายเคือง ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมและแอลกอฮอล์ก็ตาม

3 คนที่แต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง

สำหรับคนที่ต้องแต่งหน้าเป็นประจำทุกวัน ก็ควรที่จะล้างหน้าวันละ 2 ครั้งเช่นเดียวกัน โดยเป็นการล้างในช่วงเช้าและช่วงกลางคืน โดยในส่วนของช่วงกลางคืนจะต้องมีการกำจัดเครื่องสำอางที่อยู่บนใบหน้าออกอย่างหมดจด และใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีความสามารถในการกำจัดเครื่องสำอางที่อาจจะเข้าไปอุดตันรูขุมขนได้ เพื่อไม่ให้หลงเหลือและกลายเป็นบ่อเกิดของปัญหาบนผิวหน้าต่อไป

การใช้คลีนเซอร์จะช่วยในการกำจัดสิ่งสกปรกและช่วยผลัดเซลล์ผิว แต่จะไม่ลอกเอาน้ำมันตามธรรมชาติออกจากผิว

นอกจากนี้ หลังจากใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องสำอางแล้ว จะต้องมีการใช้คลีนเซอร์หรือมีการทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าใบหน้ามีความสะอาดหมดจด

4 คนที่ออกกำลังกายหรือมีเหงื่อออกมาก

สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เป็นนักกีฬา หรือทำกิจกรรมที่ทำให้มีเหงื่อออกมากๆ คุณอาจจะต้องมีการเพิ่มการล้างหน้ามากขึ้น เพื่อกำจัดเหงื่อไคลที่ไหลออกมาตามความจำเป็นในแต่ละกรณี

อย่างไรก็ตาม หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถที่จะอาบน้ำหรือล้างหน้าได้ในทันทีทันใด เช่นอาจจะไม่มีน้ำยาทำความสะอาดอยู่ในมือ ก็ให้ใช้วิธีการใช้ทำความสะอาดด้วยผ้าที่ปราศจากน้ำมัน เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไปก่อน จนกว่าที่คุณจะได้ล้างหน้าอีกครั้ง

ล้างหน้าบ่อยแค่ไหน. — ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-washing-her-face-with-water-2087954/

ในกรณีที่คุณมีความถี่ในการล้างหน้าไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจจะน้อยหรืออาจจะมากเกินไปกว่าที่ควรจะเป็นในแต่ละสภาพผิวหน้า ก็ย่อมทำให้เกิดเป็นปัญหาสุขภาพผิวหน้าตามมาได้อย่างแน่นอน โดยพอจะสรุปผลกระทบโดยรวมได้ ดังนี้

สำหรับคนที่ล้างหน้าน้อยเกินไป แน่นอนว่าการล้างหน้าที่น้อยเกินไป หลงลืมที่จะดูแลความสะอาดของผิวหน้าตามช่วงเวลาที่เหมาะสม ย่อมทำให้ผิวหน้าของคุณสกปรก ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น เหงื่อ หรือสิ่งสกปรกอื่นๆที่พบเจอมาตลอดทั้งวัน ย่อมสะสมอยู่บนผิวหน้าของคุณ อาจจะทำให้คุณเกิดปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิวหัวดำหรือสิวอักเสบที่รุนแรงต่อไปได้

ส่วนคนที่ล้างหน้ามากเกินไป สำหรับคนที่ล้างหน้าบ่อยอาจจะเป็นเพราะกลัวว่าหน้าจะไม่สะอาด หรือเป็นเพราะอากาศร้อนจนอยากจะคลายร้อนด้วยการล้างหน้า อาจจะทำให้เกิดเป็นความระคายเคืองของผิว ความแห้งตึงของผิว โดยเฉพาะในคนที่มีความมันบนใบหน้าที่มากกว่าปกติ อาจจะมีผลทำให้ผิวหน้าขับน้ำมันออกมามากกว่าเดิมหลังจากการล้างหน้า เพื่อชดเชยความแห้งจากการล้างหน้านั่นเอง

หากคุณไม่ได้ต้องการความสะอาดใบหน้าเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่ได้แต่งหน้าหรือไม่ได้มีการทาครีมใดๆ รวมไปถึงเหงื่อก็ไม่ได้ออกมากมาย คุณอาจจะหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดในตอนเช้า แต่ใช้เพียงตอนกลางคืนอย่างเดียวเท่านั้น

จะเห็นได้ว่าการล้างหน้าอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป ทั้งนี้ หากทำผิดไปด้วยความไม่รู้ อาจจะส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อการเกิดการอักเสบของผิวหน้าได้ การเรียนรู้ถึงพื้นฐานของการล้างหน้าตามสภาพผิวของตนเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยหยุดยั้งปัญหาใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้

User Review
0 (0 votes)

Enjoy this blog? Please spread the word :)

Exit mobile version